พาเวล เนดเวด เริ่มต้นค้าแข้งตั้งแต่ยังอายุน้อยๆ โดยได้เป็นเด็กฝึกหัดของทีมเยาวชนดูคลา ปราก ก่อนจะเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพในปี 1991 เนดเวดอยู่กับดูคลา ปราก ชุดใหญ่ได้เพียงแค่ปีเดียว สปาร์ต้า ปราก ทีมดังในลีกเชก ก็เซ็นสัญญาคว้าตัวเนดเวดไปร่วมทัพ ตลอด 4 ปีกับสปาร์ต้า ปราก มิดฟิดล์ผมทองทำผลงานยอดเยี่ยม ด้วยการพาต้นสังกัดค้าแชมป์ลีก 3 สมัย ฟอร์มการเล่นดังกล่าวเตะตาแมวมองจากอิตาลี ที่ดึงเขาไปเซ็นสัญญากับลาซิโอ ในปี 1996 เนดเวดในวัยละอ่อน กับลาซิโอ เนดเวดประสบความสำเร็จทันทีที่เล่นให้ทีมอินทรีฟ้า-ขาว และมีส่วนร่วมทำให้ลาซิโอในยุคนั้นแข็งแกร่งที่สุดในรอบหลายสิบปีของสโมสรเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่คว้าแชมป์โคปปา อิตาเลีย ในฤดูกาล 1997-98 ต่อด้วยแชมป์ คัพ วินเนอร์ส คัพ ในซีซั่น 1998-99 ซึ่งเนดเวดเป็นคนยิงประตูชัยดับเรอัล มายอร์ก้า 2-1 ด้วย (เป็นทีมสุดท้ายที่คว้าแชมป์คัพ วินเนอร์ส คัพ เพราะหลังจากจบซีซั่น ยูฟ่าได้ทำการยุบรวมฟุตบอลรายการนี้เข้ากับรายการยูฟ่า คัพ ซึ่งภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น ยูโรป้า ลีก) เท่านั้นยังไม่พอ ในฤดูกาล 1999-00 อัจฉริยะผมทองยังพาลาซิโอคว้าดับเบิ้ลแชมป์ ทั้งเซเรีย อา และโคปปา อิตาเลีย มาครองได้สำเร็จ แต่น่าเสียดายที่ยุคทองของทัพเบียงโคเชเลสเต้ต้องสะดุดลง ด้วยปัญหาการเงินของสโมสรที่เสี่ยงล้มละลาย ทำให้ต้องขายนักเตะแถวหน้าของทีมออกไปเป็นว่าเล่น เนดเวดเองก็หนีไม่พ้น เป็น 1 ในเพชรเม็ดงามของลาซิโอ ที่ต้องขายเปลี่ยนเป็นเงินมาช่วยกอบกู้สถานะของสโมสร ยูเวนตุส ยื่นขอซื้อเขาไปร่วมทัพในปี 2001 ในราคาสูงถึง 41 ล้านยูโร เพื่อนำไปแทนที่ ซีเนอดีน ซีดาน จอมทัพเลือดน้ำหอมที่ยูเว่ขายไปให้กับเรอัล มาดริด เป็นสถิติโลกในซัมเมอร์นั้น แม้ดูเหมือนความคาดหวังและความกดดันจะสูง แต่เนดเวดรับมือกับสิ่งแวดล้อมใหม่ในรังเดลเล่ อัลปิ ได้ดีเยี่ยม ประสานงานกับเดล ปิเอโร่ ได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากจะเล่นได้หลายตำแหน่ง ทั้งมิดฟิลด์ตัวรุก และปีกซ้าย เนดเวดยังยกระดับฟอร์มของเขาให้ดีขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าในสีเสื้อเบียงโคเนรี เขากลายเป็นตัวหลักของทีมม้าลายตั้งแต่ต้น และร่วมคว้าสคูเด๊ตโต้กับทีมตั้งแต่ฤดูกาลแรก แต่เรื่องน่าเสียดาย คือ เนดเวดไม่ได้มีโอกาสลงสนามในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่เจอกับเอซี มิลาน ทีมร่วมลีกในปี 2003 ก่อนที่ยูเว่จะแพ้ในการดวลจุดโทษไปในที่สุด อย่างไรก็ดี รางวัลปลอบใจของกองกลางเลือดเชก ก็คือ ในปลายปีนั้น เขาได้รับเลือกให้ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมยุโรป หรือบัลลง ดอร์ นอกจากนี้ เนดเวดยังเป็นมิดฟิลด์ยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นท์แชมเปี้ยนส์ ลีก และแข้งยอดเยี่ยมเซเรีย อา อีกด้วย แม้จะพลาดนัดชิง แต่เนดเวดยังคว้าบัลลง ดอร์ 2003 มาครองได้ สำหรับผลงานในทีมชาติ เนดเวดได้ประเดิมติดธงนัดแรกเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 1994 และได้เป็นกัปตันทีมในเวลาต่อมา เนดเวดนำทัพเชกสร้างผลงานสุดเซอร์ไพรส์ ทะลุเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศยูโร 2004 แต่สุดท้ายก็พ่ายกรีซ 1-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ชวดเข้าชิงชนะเลิศอย่างน่าเจ็บใจ และกรีซก็ได้เป็นแชมป์ในเวลาต่อมา ไม่ถึงฝั่งฝัน แพ้กรีซ ในรอบรองชนะเลิศยูโร 2004 หลังจากได้บัลลงดอร์มาเชยชม ดูเหมือนความสำเร็จจะห่างหายไปจากเนดเวด ในฤดูกาล 2005-06 ยูเวนตุสเผชิญมรสุมครั้งสำคัญ ในการโดนปรับตกชั้นไปเล่นเซเรีย บี จากคดีติดสินบนล็อคผลการแข่งขัน เล่นเอานักเตะแถวหน้าของทัพเบียงโคเนรี่หลายราย โยกย้ายหนีทีมไป ขณะที่อนาคตของเนดเวดก็ได้รับการจับตามอง แต่สุดท้ายเจ้าตัวประกาศขอร่วมหัวจมท้ายไปกับทีมม้าลาย และสัญญากับแฟนๆ ว่าจะพาทีมเลื่อนชั้นกลับมาให้ได้ แน่นอนว่าเนดเวดกลายเป็นขวัญใจอันดับต้นๆ ของสาวกเบียงโคเนรี่ จากความจงรักภักดีและผลงานที่ยอดเยี่ยมตลอด และสุดท้ายเขาก็ช่วยให้ยูเว่คว้าแชมป์เซเรีย บี และกลับสู่เซเรีย อา ได้ในทันที พายูเว่เลื่อนชั้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แม้เนดเวดจะมีความหมายกับยูเว่มากมาย แต่ก็มีข่าวลือลอดว่าเขาจะเลิกเล่นในปี 2008 เนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บรุมเร้าตลอด หลังจากที่หายกลับมา มีรายงานว่ามิดฟิลด์เชกจะใช้เวลาช่วงสุดท้ายในชีวิตค้าแข้งกับจูบิโล่ อิวาตะ ทีมในเจลีก ของญี่ปุ่น แต่สุดท้ายเนดเวดก็เลือกต่อสัญญากับยูเว่อีก 1 ปี ทำให้ฤดูกาล 2008-09 กลายเป็นซีซั่นสุดท้ายในชีวิตนักเตะอาชีพของเจ้าตัว น่าเสียดายที่ว่าทีมม้าลายไม่อาจช่วยให้การปิดฉากรูดม่านเวทีค้าแข้งของเนดเวด สมบูรณ์แบบด้วยการคว้าแชมป์ใดๆ แต่ถึงกระนั้น ก็คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า เนดเวด เป็นอีกหนึ่งสุดยอดมิดฟิลด์แห่งทศวรรษ ที่เป็นแบบอย่างยอดเยี่ยมทั้งในและนอกสนาม สไตล์การเล่น ลูกยิงอันทรงพลังของเนดเวด ที่เราเห็นกันจนชินตา เนดเวด เป็นนักเตะที่เล่นบอลฉลาด เทคนิคดี และขยันทุ่มเท มีวินัยอย่างยิ่ง จนได้รับฉายาว่าเป็นกองกลางพลังไดนาโม เขาเป็นกำลังสำคัญของทั้งสโมสร และทีมชาติ เป็นผู้นำในห้องแต่งตัวของทีม คอยกระตุ้นให้เพื่อนร่วมทีมฮึดสู้อยู่เสมอทั้งในและนอกสนาม ลับเฉพาะกับ พาเวล เนดเว็ด - ดาวเตะผมทอง ได้รับการยกย่องจาก เปเล่ ตำนานลูกหนังโลกชาวบราซิเลียน ให้เป็น 1 ใน 125 นักเตะยอดเยี่ยมของโลกที่ยังมีชีวิตอยู่ - เนดเวด ก็เคยกล่าวเอาไว้ว่า ถ้าเขาเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพเมื่อไหร่จะกลับไปเปิดโรงเรียนสอนวิชาลูกหนังให้กับเด็กๆ ในบ้านเกิด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาเกิดมาเพื่อส่งเสริมวงการฟุตบอลเชก อย่างแท้จริง เกียรติประวัติที่เคยได้รับ ระดับสโมสร สปาร์ต้า ปราก : แชมป์เชกโกสโลวาเกีย ลีก 1 สมัย (1992-93), เช็ก กัมบรินัส ลีกา 2 สมัย (1993-94, 1994-95), เช็ก คัพ 1 สมัย (1996) ลาซิโอ : กัลโช่ เซเรีย อา 1 สมัย (1990-00), โคปปา อิตาเลีย 2 สมัย (1997-98, 1999-00), ซูเปอร์ คัพ อิตาเลียน 2 สมัย (1998, 2000), คัพ วินเนอร์ส คัพ 1 สมัย (1998-99), ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย (1999) ยูเวนตุส : กัลโช่ เซเรีย อา 4 สมัย ((2001-02, 2002-03, 2004-05*, 2005-06*), ซูเปอร์ คัพ อิตาเลียน 2 สมัย (2002, 2003), แชมป์ เซเรีย บี 1 สมัย (2006-07) * ยูเวนตุส โดนริบแชมป์ และปรับตกชั้น ทีมชาติสาธารณรัฐเช็ก ฟุตบอลยูโร 1996 : รองแชมป์ ระดับส่วนตัว ผู้เล่นยอดเยี่ยมเซเรีย อา : 2003 ผู้เล่นต่างชาติยอดเยี่ยมเซเรีย อา: 2003 ผู้เล่นชาวยุโรปยอดเยี่ยม: 2003 ผู้เลนเชกยอดเยี่ยม: 1998, 2000, 2001, 2003, 2004 ผู้เล่นยอดเยี่ยมของนิตยสารเวิล์ด ซอคเกอร์: 2003 กองกลางยอดเยี่ยมในแชมเปี้ยนลีก: 2003 สปอร์สกี โนวอตนีย์ อวอร์ต: 2003 ผู้เล่นยอดเยี่ยมจาก อาร์เอสเอส:2003 ผู้เล่นยอดเยี่ยมระดับโลก: 2003 ผู้เล่นเชกยอดเยี่ยมแห่งทศวรรษ: 2003 ติดทีมแห่งปีของยูฟ่า: 2003, 2004, 2005 ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีประจำเวิร์ลด ซอคเกอร์ ไดเจสท์: 2003 รางวัลเท้าทองคำ: 2004 อ่าน ข่าวกีฬา เพิ่มเติม
